ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ฟ

6 เหตุผลทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์

ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ฟ

6 เหตุผล ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ ?

ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ ? ก็เพราะว่าในปัจจุบันนี้การเข้าถึงเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ง่ายมาก มีทั้งผู้ใช้งานทั่วไป ที่เข้าไปเสิร์ชค้นหาข้อมูล ข่าวสาร และกลุ่มธุกิจที่เข้ามาทำการตลาดในเว็บไซต์ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการใช้งานเว็บไซต์มีประโยชน์มากมายหลายด้านด้วย 6 เหตุผลดังนี้

1. ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น               

2. เพิ่มโอกาสในการขาย ให้ธุรกิจคุณ

3. สร้างความน่าเชื่อถือ ให้ธุรกิจคุณ

4. คือ การมีพื้นที่สื่อเป็นของตนเอง

5. ทำให้คุณได้ข้อมูลสถิติ เพื่อต่อยอดธุรกิจของคุณ

6. ทำให้ธุรกิจของคุณมีอิทธิบนโลกออนไลน์

สรุป ทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์

 

1. การมีเว็บไซต์ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

การมีเว็บไซต์ทำให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น Google เว็บไซต์สำหรับการค้นหามี Search Engine อันดับหนึ่งของโลกที่รวบรวมคลังข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ใครอยากรู้อะไร อยากค้นหาอะไร ก็ต้องใช้ Google นี่จึงเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่หลาย ๆ ธุรกิจทำเว็บไซต์ของตนเอง เพราะการมีเว็บไซต์นั้น จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ ถูกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น ผ่านการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งหากเว็บไซต์ของคุณ เป็นเว็บไซต์ที่ดี นักพัฒนาเว็บไซต์มีความรู้เรื่องการวางโครงสร้างเว็บไซต์สำหรับการทำ SEO โดยเฉพาะ เว็บไซต์ของคุณก็จะติดอันดับแรก ๆ ในผลการค้นหาบน Google ได้ง่ายขึ้น และธุรกิจของคุณก็จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากขึ้น แล้วยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปได้ทั่วโลกอีกด้วย

2. การมีเว็บไซต์ เพิ่มโอกาสในการขาย ให้ธุรกิจของคุณ

การมีเว็บไซต์ เพิ่มโอกาสในการขาย ให้ธุรกิจคุณ การมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ก็เปรียบเสมือนการมีหน้าร้านเป็นของตนเอง คุณสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลหน้าร้านของคุณได้แบบเต็มที่ ทำง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง สามารถจัดหมวดหมู่ และแสดงข้อมูลสินค้าและบริการ ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย โดยเฉพาะธุรกิจที่มีสินค้าและบริการหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหากคุณมีเว็บไซต์เป็นของตนเองนั้น ก็จะเพิ่มความสะดวกสบาย  ในการเลือกซื้อ และตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ สำหรับลูกค้าได้ดีนั้นเอง อีกทั้งหากเว็บไซต์ของคุณมีการวางโครงสร้าง SEO ไว้เป็นอย่างดี และมีการวางกลยุทธการทำ SEO โดยบริษัทรับทำ SEO ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหาคีย์เวิร์ดบนกูเกิลได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการเข้าชมเว็บไซต์ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น ทางเราก็ทำเว็บไซต์

3. สร้างความน่าเชื่อถือ ให้ธุรกิจคุณ

การมีเว็บไซต์ สร้างความน่าเชื่อถือ ให้ธุรกิจคุณ การที่ธุรกิจมีเว็บไซต์ของตนเองนั้น จะสามารถเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดี และความทันสมัยให้กับธุรกิจได้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า ธุรกิจของเรามีตัวตนและเป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ซึ่งการมีข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลสินค้าและบริการ ข้อมูลความเชี่ยวชาญ ข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เราระบุไว้ในเว็บไซต์ จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

4. คือ การมีพื้นที่สื่อเป็นของตนเอง

การมีเว็บไซต์ คือ การมีพื้นที่สื่อเป็นของตนเอง การมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง จะช่วยให้คุณมีอิสระในการปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้หลากหลายมากขึ้น อยากจะลงเป็นบทความ รูปภาพ หรือวิดีโออะไร ก็ไม่มีขอบเขตหรือข้อจำกัดต่าง ๆ เหมือนการใช้ Platform Social Media ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ความยาวของวิดีโอ ขนาดหรือไซส์ของรูปภาพ การแปะลิงก์ หรือการโชว์ช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ก็เป็นระบบระเบียบกว่า หาได้ง่าย สะดวกในการให้ข้อมูล เพราะเป็นพื้นที่สื่อเป็นของตนเอง

5. ทำให้คุณได้ข้อมูลสถิติ เพื่อต่อยอดธุรกิจของคุณ

การมีเว็บไซต์ ทำให้คุณได้ข้อมูลสถิติ เพื่อต่อยอดธุรกิจของคุณ ทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง เพราะการเก็บข้อมูลสถิตินั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก กับทุก ๆ ธุรกิจ และการมีเว็บไซต์เป็นของตนเองนั้น ก็จะทำการเก็บข้อมูลสถิติต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น โดยข้อมูลสถิติที่เราได้จากการเข้าชมเว็บไซต์ และพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน จะสามารถนำไปปรับใช้ สำหรับการวางแผนการทำธุรกิจ ในอนาคตได้ เช่น หากคุณรู้ว่าลูกค้าของคุณเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการชนิดใด และในช่วงเวลาไหนมากที่สุด คุณก็จะสามารถจัดแจงเวลาการทำโปรโมชัน หรือการลงสินค้าและบริการใหม่ ๆ ได้ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าได้มากขึ้น

6. ทำให้ธุรกิจของคุณมีอิทธิบนโลกออนไลน์

การมีเว็บไซต์ทำให้ธุรกิจของคุณมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ถ้าบริษัทมีเว็บไซต์ นั้นก็แปลว่าเรากำลังจะเข้าถึงผู้คนหรือลูกค้าเป็นหมื่น เป็นแสนคนที่อาจจะเกิดขึ้น ที่กำลังจะเข้ามาดูเว็บไซต์ หรือบริการของเรา นั้นก็แปลว่าเว็บไซต์ของเรากำลังจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือ เพิ่มยอดขายให้กับบริษัทของเรา แต่เว็บไซต์ต้องมีความน่าเชื่อถือ สวยงาม รองรับมือถือ และมีการทำการตลาดออนไลน์ทุกขั้นตอน

สรุป ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์ ?

โดยเหตุผลที่กล่าวมานี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรเพื่อให้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองบางทีผู้ประกอบการท่านใดที่เข้ามารู้จักเว็บไซต์ที่คุณภาพดีซึ่งบริษัทที่เข้ามาขอคำปรึกษากับทางBP Online Groupsของเราได้ เลย

Similar Posts

  • การตลาดน่ารู้ กลยุทธ์ 4E มัดใจลูกค้า!

    1. EXPERIENCE ประสบการณ์ที่ดี สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า สินค้าหรือบริการต้องทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพของสินค้า แต่รวมไปถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ การนำเสนอ การดูแลลูกค้า 2. EXCHANGE การสร้างความคุ้มค่า สร้างความคุ้มค่าที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกยินดีที่จะจ่ายเงิน อธิบายง่ายๆคือการแลกเปลี่ยนความพึงพอใจระหว่างเราและลูกค้านั่นเอง 3. EVERYWHERE เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายผ่านโลกออนไลน์ ในอดีตการทำร้านค้า ทำเล ในการสร้างถือเป็ฯปัจจัยสำคัญแต่ในยุคนี้ที่อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในด้านการค้ามากขึ้นแบรนด์จึงควรหันมาเน้นการสร้างหน้าร้านบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น เว็ปไซต์ หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 4. EVANGELISM การสร้างความสัมพันธ์ หรือก็คือการเปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้กลายเป็นลูกค้าประจำ จากเดิมที่เน้นโปรโมชั่นที่แม้จะเพิ่มยอดขายในช่วงโปรแต่เมื่อหมดโปรโมชั่นก็มีแนวโน้มที่ยอดขายจะกลับมาซบเซาเปลี่ยนมาเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า มีการสมัครสมาชิก มีของขวัญเฉพาะสมาชิก ให้ลูกค้าได้รับรู้เรื่องราวของแบนรด์และมีความรู้สึกร่วมไปกับแบรนด์เพื่อสร้าง Brand Loyalty

  • รู้ไว้!ก่อนจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า(Trade mark)

    เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คืออะไร? เครื่องหมายการค้า หมายถึงเครื่องหมายหรือตราสัญลักษณ์ที่ใช้กับสินค้าของเราเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแยกสินค้าและบริการออกจากผู้ผลิตรายออื่นๆได้ หรือ โลโก้นั่นเอง หน้าที่ของเครื่องหมายการค้าจะทำหน้าที่เป็นสิ่งประกันคุณภาพของธุรกิจ เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญและเป็น เครื่องมือพื้นฐานในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร เครื่องหมายการค้าคุ้มครองอย่างไร ? หลักการสำคัญของเครื่องหมายการค้า คือเจ้าของเครื่องหมายการค้าจะได้รับ การคุ้มครองโดยการจดทะเบียนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้การคุ้มครองจะเกิดขึ้นเฉพาะในประเทศ ที่พิจารณาให้จดทะเบียนและจะไม่ขยายผลกาคุ้มครองไปยังอีกประเทศหนึ่ง ไม่ว่ากรณีใดๆ ลักษณะของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนได้ ต้องประกอบด้วยลักษณะ3ประการ ดังนี้ มีลักษณะบ่งเฉพาะ ไม่เป็นเครื่องหมายที่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ไม่เป็นเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ผลของการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน มีสิทธิป้องกันมิให้บุคคลที่สามทั้งปวงซึ่งมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของเครื่องหมายการค้าใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนกันหรือคล้ายกัน มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้านั้นสำหรับจำพวกสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ (มาตรา 44) เครื่องหมายการค้า ที่จดทะเบียนแล้วจะมีอายุการคุ้มครอง 10 ปี เมื่อครบกำหนดสามารถที่จะต่ออายุได้เป็นคราวๆ คราวละ 10 ปี และสามารถต่ออายุได้ตลอดไป (มาตรา 53) มีสิทธิในการทำสัญญาอนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตนและโอนเครื่องหมายการค้าหรือบางส่วนก็ได้ (มาตรา 50, 51) มีสิทธิฟ้องร้องและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ ในกรณีที่มีผู้ละเมิด สิทธิในเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว (มาตรา 46)

  • SEO คืออะไร?ทำไมต้องทำSEO?

    SEO คืออะไร ทำไมต้องทำSEO ในยุคนี้ การทำ SEO ถือเป็นหนึ่งในช่องทางการตลาดที่ธุรกิจต้องทำ เพราะเป็นการช่วยทำให้เว็บไซต์ติดอันดับดีๆ เพิ่มโอกาสให้คนจะมาเจอเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนหน้าร้านหลักบนโลกออนไลน์ การทำเว็บไซต์ขึ้นมานั้น แน่นอนว่าเราต้องการให้มียอดเช้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic)ให้ได้มากที่สุด ซึ่งต้องพึ่งเครื่องมืออย่าง SEO หรือ Search Engine Optimization เป็น กระบวนทางการตลาดดิจิทัลที่ทำให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกในการค้นหาบน Googleโดยการปรับแต่งเนื้อหาของเว็บไซต์ให้สามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น ยิ่งปรับแต่งเว็บไซต์ได้เหมาะกับเครื่องมือค้นหาบนGoogleก็ยิ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าชม หน้าเว็บไซต์สินค้าและบริการของคุณ ช่วยให้สินค้าและบริการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย SEO ทำงานโดยแสดงเครื่องมือค้นหาว่าเนื้อหาของคุณเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมีความเกี่ยวข้องมากที่สุด วิธีการทำ ต้องมีแม่นยำ ขึ้นอยู่กับเครื่องมือค้นหาที่คุณนำปรับให้เหมาะสม ดังนั้น หากคุณต้องการปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นในหน้า เว็บไซต์ คุณต้องเข้าใจและตอบสนองต่ออัลกอริทึมของ Google เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ที่สุด อัลกอริทึม จะพิจารณาปัจจัยหลายประการรวมถึงคำที่ค้นหาที่มีความ เกี่ยวข้องและการใช้งานของหน้าเว็บ ความเชี่ยวชาญ แหล่งที่มา ตำแหน่งและการตั้งค่าของคุณ การทำSEOนั้นถือว่าเป็นการทำการตลาดที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกมากๆเทียบกับการโปรโมทอย่างอื่นๆหรือการทำโฆษณาซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้การทำSEO หรือการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับการค้นหา ยังช่วยดึงดูด ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให่เข้ามาสู่ธุรกิจของเราได้เรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องเสียเงินโปรโมทเพิ่มเติมบ่อยๆ

  • 5 เหตุผลที่ควรทำการตลาดผ่าน TikTok

    5 เหตุผลที่ควรทำการตลาดผ่าน TikTokหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่กำลังมองหาช่องทางการเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้น Tiktok อาจจะเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณไปในทางที่ดีในการสร้างการรับรู้แบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ ทุกเพศทุกวัย Tiktok สามารถตอบโจทย์ความต้องการมีวิดีโอสั้นๆและชื่นชอบคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ สิ่งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการทำการตลาดผ่าน Tiktok เนื่องด้วยเป็นที่นิยมและมีผู้ใช้งานจำนวนมากติดอันดับ1ในไทย1.Tiktok เป็นแหล่งรวมวิดีโอสั้น ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่สุดในไทย2.นำเสนอสินค้า สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าแบรนด์ของคุณ3.เวลาเฉลี่ยผู้ใช้งานสูงเมื่อเทียบกับเพลตฟอร์มอื่น4.สร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ด้วย Influencer Markketting5.กระแส Challenge Campaign เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็นแบรนด์สินค้าจากลูกเล่นนี้ให้แบรนด์ของเราติดกระแสTiktok เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ทำการตลาดดิจิทัล ที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย โดยขายจุดเด่นคือวิดีโอสั้นๆสร้างคอนเทนต์ ทำให้เกิด Engagement และ Conversion กับแบรนด์ประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินลงทุนมาก

  • เจาะลึก! 5ประเภทของGoogle ads

    เจาะลึก! 5 ประเภทของGoogle ads มีอะไรบ้างนะ? ปัจจุบัน google ads ถือว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ เนื่องจากสามารถกระจายไปยังเว็บไซต์ต่างๆที่มียอดผู้เข้าชมสูง ทำให้เรามีโอกาสในการ กระจายสินค้าและบริการไปสู่กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ได้ วันนี้ BP online group จะพาคุณมารู้จักกับ ประเภทของGoogle ads เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้Adsแบบต่างๆเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด Google adsมีอยู่ 5ประเภท ได้แก่ 1.Search Ads คือ บริการที่คนนิยมใช้ทำโฆษณาบน Google เป็นลำดับแรก ๆ โดยรูปแบบการทำโฆษณาประเภทนี้ จะใช้คีย์เวิร์ดเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อของบริการ นั่นก็คือการ “โฆษณาค้นหา” ซึ่งแน่นอนว่าเวลาผู้คนค้นหาบน Google มักจะพิมพ์คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาลงไป แล้วเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำ ๆ นั้นจะแสดงผลขึ้นมาให้ผู้ค้นหาเลือกเข้าชม 2. Display (Google Display Network) Google Display Ads คือโฆษณาที่แสดงผลในรูปแบบของแบนเนอร์ เปรียบได้กับสื่อโฆษณาออฟไลน์ประเภทภาพโปสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะแสดงผลบนเว็บไซต์ต่างๆ…

Leave a Reply